ขาแตกลาย? สาวๆ ท่านไหนที่กำลังคิดไม่ตกกับปัญหารอยแตกลายอยู่ จะใส่ชุดสวยชุดไหนก็ไม่มั่นใจ ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเลยค่ะ วันนี้เรามีทางออกมาแนะนำ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเองดีๆ มาฝากอีกด้วยนะคะ ขาแตกลายหรือผิวแตกลายเป็นแผลชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง ซึ่งสังเกตเห็นได้ง่าย เพราะมีสีที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดจากผิวหนังบริเวณอื่น โดยอาการเริ่มแรกของผิวแตกลายนั้น ผิวหนังมักจะเป็นเส้นสีแดงหรือสีม่วง จากนั้นจะมีสีอ่อนลงเรื่อยๆ จนกลายเป็นสีขาวขุ่น ซึ่งเกิดจากการฉีกขาดของผิวหนังแท้ เนื่องจากผิวหนังบริเวณนั้นๆ เกิดการยืดขยายอย่างรวดเร็ว มักเกิดในบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่มาก เช่น ต้นแขน หน้าอก หน้าท้อง ต้นขา สะโพก และน่อง การขาดคอลลาเจนสามารถทำให้เกิดรอยแตกลายบนผิวหนังได้ง่าย เช่น การเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว หรือผ่าตัดหน้าอกหลังคลอด เมื่อมีปัญหานี้ เราสามารถใช้เลเซอร์เพื่อปรับสีของรอยแตกลายได้ค่ะ รวมถึงรักษาความผิดปกติของเส้นเลือดได้อีกด้วย สาวๆ ในยุคปัจจุบันมักนิยมรักษาด้วยวิธีนี้ ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยลดรอยแตกลายได้เร็วที่สุด
ขาแตกลาย มีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง
เมื่อผิวหนังชั้นกลางถูกยืดขยายหรือเปลี่ยนแปลงมากเกินไป รอยแตกลายก็จะเกิดขึ้น เนื่องจากอิลาสตินและคอลลาเจนบนผิวหนังถูกทำลาย ผิวหนังจะพยายามซ่อมแซมตัวเองแต่ไม่สามารถทำให้รอยแตกลายหายไปได้ สาเหตุของการเกิดการยืดขยายของผิวหนังอาจมาจากหลายปัจจัย เช่น
- การตั้งครรภ์ ระหว่างการตั้งครรภ์ เส้นเอ็นช่วงเชิงกรานของร่างกายจะถูกกระตุ้นให้ยืดหยุ่นมากขึ้นด้วยฮอร์โมนที่ปล่อยออกมา ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้ยังสามารถทำให้ผิวหนังแตกลายได้ง่ายตามไปด้วย
- การเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว สามารถทำให้ผิวหย่อนไม่ทันตามการขยายของร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุที่สำคัญทำให้เกิดผิวหนังแตกลาย แม้จะลดน้ำหนักลงแล้ว รอยแตกลายอาจยังคงคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
- ในวัยรุ่น เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายเติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้เกิดการขยายของผิวหนังและเกิดรอยแตกลาย รอยแตกลายบางครั้งจะพบได้ที่หัวไหล่และหลังของเด็กผู้ชาย หน้าอก สะโพก และต้นขาของเด็กผู้หญิง
- โรคประจำตัว เช่น โรคคุชชิ่ง (Cushing’s Syndrome) หรืออาการมาแฟนซินโครม (Marfan Syndrome) มีผลต่อระบบของร่างกายและสามารถทำให้เกิดการขยายของผิวหนังและเกิดรอยแตกลายได้ง่าย
- ผู้ที่รับประทานยาสเตียรอยด์ อาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้ระดับคอลลาเจนในผิวหนังลดลง ซึ่งสามารถทำให้เกิดการแตกลายของผิวหนังได้
- กรณีที่มีสมาชิกในครอบครัวมีรอยแตกลาย อาจเป็นเพราะพันธุกรรม ซึ่งรอยแตกลายที่เกิดขึ้นก็อาจมีสาเหตุมาจากทางนี้ได้
ประเภทของรอยแตกลาย
- รอยแตกลายแบบ Striae rubra มักเป็นรอยแตกลายที่มีสีแดง มักเกิดขึ้นในระยะแรก และอาจทำให้ผิวนูนขึ้นได้เมื่อสัมผัส
- รอยแตกลายแบบ Striae alba เป็นรอยแตกลายที่เปลี่ยนจากสีแดงมาเป็นสีขาว และมักจะยุบตัวลงบนผิวหลังเมื่อเวลาผ่านไป
- รอยแตกลายแบบ Striae distensae มักเกิดจากการยืดของผิวหนังอย่างรวดเร็ว เป็นรอยแตกลายที่มีลักษณะเป็นเส้นขนาน
- รอยแตกลายแบบ Striae atrophicans มักเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังเริ่มฝ่อหลังจากคลอดลูกหรือมีการเปลี่ยนแปลงจากน้ำหนักตัวอย่างรวดเร็ว
การรักษารอยแตกลายอาจมีการใช้เทคนิคทางคลินิกหรือการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (เพื่อช่วยลดรอยแตกลาย) และยังป้องกันการเกิดรอยแตกลายใหม่ในอนาคตได้อีกด้วย แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนที่จะเริ่มการรักษา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุด
5 วิธีลด ขาแตกลาย ทำเองได้ที่บ้าน
- การใช้น้ำมันงาเพื่อบำรุงผิว สูตรน้ำมันงาได้รับความนิยมในการบำรุงผิวที่แห้งและขาดความชุ่มชื้น โดยเพียงแค่ทาน้ำมันงาลงบนรอยแตกลาย นับเวลาไป 20 นาที จากนั้นล้างออกทำขั้นตอนนี้อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดรอยแตกลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การใช้วุ้นว่านหางจระเข้เพื่อบำรุงผิว ว่านหางจระเข้เป็นพืชสมุนไพรที่มีสารสำคัญช่วยลดรอยแตกลายและบรรเทาผิวไหม้ได้ การใช้วุ้นว่านหางจระเข้สดทาบนรอยแตกลายและรอเป็นเวลา 20-30 นาที ทำซ้ำเช้าเย็น ผิวแห้งแตกลายจะดูดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติโดยเร็ว
- การสครับผิว เป็นวิธีที่ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วเพื่อกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ ซึ่งสามารถช่วยลดรอยแตกลายได้ สูตรสครับควรใช้วัตถุดิบที่มีสารกรด AHA/BHA ซึ่งมีคุณสมบัติในการขจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น สูตรที่ใช้มะขามและขมิ้น หรือ มะนาวและดินสอพอง โดยการใช้สครับผิวเป็นประจำจะช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสและชุ่มชื้นมากขึ้น
- การทาครีม เพื่อช่วยแก้ขาแตกลายเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพ เพราะส่วนประกอบของครีมบางชนิดอาจช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และช่วยลดการเสื่อมสภาพของผิวหนังได้ อย่างไรก็ตาม ควรใช้ครีมคุณภาพดีที่มีส่วนประกอบที่เหมาะสมกับปัญหาของผิวหนัง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- การทาออยล์ หลังจากการขัดผิวเป็นขั้นตอนสำคัญในการบำรุงผิว เพราะออยล์จะช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม และช่วยบรรเทารอยแตกลายได้ดี เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยในการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ออยล์ที่เหมาะสมสำหรับการใช้บำรุงผิวบริเวณรอยแตกลายได้แก่ ออยล์จากเบบี้ น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันทาตัว สามารถใช้ทาลงไปที่รอยแตกลายที่ขาอย่างใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น รอยแตกลายแดง หรือขาว การทาออยล์จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังได้ดีมากขึ้น
ลบรอย ขาแตกลาย ด้วยเลเซอร์ดีอย่างไร
การรักษาด้วยเลเซอร์ลบรอยแตกลายคือเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัย โดยใช้เครื่องพิโคชัวร์ที่สามารถควบคุมการรักษาได้อย่างแม่นยำ โดยเครื่องนี้สามารถปล่อยแสงเลเซอร์เฉพาะเจาะจงได้ และสามารถส่งพลังงานได้ที่ความเร็วสูงสุดถึง 1 ล้านวินาที ทำให้โมเลกุลขนาดเล็กของเม็ดสีสามารถแตกตัวและลดขนาดลงได้ ซึ่งเป็นวิธีการที่มีผลลัพธ์ที่ดี ช่วยรักษารอยแตกและแผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่มีการเกิดแผลหรือผลข้างเคียง การใช้เลเซอร์เพื่อรักษาสามารถนำมาใช้กับหลายๆ ส่วนของร่างกาย เช่น รอบท้อง น่อง สะโพก แขน และขา เพื่อลดรอยแตกและรอยแผลให้หายไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ประโยชน์จากการใช้เครื่องเลเซอร์
- เพิ่มความกระจ่างใสให้กับสภาพผิว
- ทำให้ผิวเนียนนุ่มและมีความยืดหยุ่น
- ลดการเกิดริ้วรอยและลดการเกิดรอยแตกลายในอนาคต
การเตรียมตัวก่อนการทำเลเซอร์มีอะไรบ้าง
- งดรับประทานยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน วิตามินอี รวมถึงสมุนไพร เนื่องจากบางสารอาจมีผลกระทบต่อกระบวนการการทำเลเซอร์ได้
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังการทำเลเซอร์ เพราะการสูบบุหรี่อาจทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ช้าขึ้น
- หลีกเลี่ยงการออกแดดโดยตรงหรือควรใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันผิวหนังไม่ให้เสียดสีและเพื่อความปลอดภัยของผิวหนังจากแสงแดดที่มีอันตราย
การดูแลตัวเองหลังการลดรอยแตกลายด้วยเลเซอร์
- ทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมบางเบาและช่วยให้ผิวชุ่มชื้นเสมอ
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยนและไม่ทำให้ผิวระคายเคือง
- งดใช้สครับขัดผิวและโทนเนอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ทาครีมกันแดดที่มี SPF ระดับ 30-50 บ่อยครั้งต่อวัน
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในแสงแดดร้อนเพื่อปกป้องผิวอย่างน้อย 3 เดือน
- หากต้องออกนอกในช่วงเวลาที่แสงแดดแรง ควรใส่เสื้อผ้าที่ปกป้องผิวอย่างเหมาะสม
บทความที่น่าสนใจ : CoolSculpting คืออะไร?
บทสรุปลด ขาแตกลาย ลดด้วยวิธีไหนดีที่สุด
สำหรับสาวๆ ที่ได้อ่านบทความของเราจนมาถึงท้ายบทก็ไม่ต้องซีเรียสแล้วนะคะ รอยขาแตกลายสามารถหายได้โดยมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป สามารถใช้ข้อมูลจากเราเลือกรักษาตามความต้องการได้เลยค่ะ เมื่อเรารักษารอยแตกลายให้ลดลงจนเกือบมองไม่เห็น จะทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นในเรื่องของการแต่งตัว ผิวจะกลับมาเรียบเนียนและดูสุขภาพดีขึ้น ความสวยของตัวเองจะช่วยเสริมความมั่นใจให้เราได้มากขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าเราจะเลือกแต่งตัวแบบไหนก็ตาม ผิวแตกลายก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป ดังนั้น มาสร้างความมั่นใจและรักษาผิวสวยให้ตัวเองกันดีกว่าค่ะ