หน้าบานหน้าไม่มีมิติปัญหาที่หลายๆ ไม่อยากเจอ ปัญหาหน้าบานเราเชื่อว่าไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใคร ก็จะทำให้คนนั้น รู้สึกเฟล รู้สึกไม่มั่นใจ หากคุณเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปยิ่งต้องหาทางแก้ไขเลยค่ะ เพราะในปัจจุบันปี การที่มีรูปหน้าที่เรียวยาวเป็นมิติ จะทำให้เวลาถ่ายรูปออกมาดูสวย ดูมีเสน่ห์ น่าหลงใหล บวกกับคนในยุคนี้ที่หลายคนทำงานด้านโซเชียลมีเดีย ถ่ายคอนเทนต์,ถ่ายรูป,ถ่ายคลิปยุคของดิจิทัล ยุคแห่งความสวยความงาม ใบหน้าของคุณก็ต้องดูดีนำเทรน หากคุณอยากมีใบหน้าที่เข้ารูปเพื่อสร้างความมั่นใจ เราแนะนำให้คุณแก้ปัญหา หน้าบาน ให้ตรงจุด! เพราะปัจจุบันมีการศัลยกรรมเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำหัตถการ ด้วยการฉีดโบท็อก,ฉีดฟิลเลอร์,ฉีดเมโสแฟลต หรือจะใช้วิธีการยกกระชับหน้าก็ได้ทั้งนั้นรวมถึงการทำศัลยกรรม แต่เรารับรองเลยว่าคุณไม่ต้องถึงขั้นทำศัลยกรรมคุณก็สามารถมีใบหน้าเรียวสวยได้ แถมไม่ต้องพักฟื้นให้เสียเวลาพร้อมแล้วมาอ่านบทความด้านล่างกันเลยดีกว่ารับรองเลยว่าคุณจะได้สาระดีๆ มากมาย และไขข้อสงสัยอย่างตรงจุดได้อีกด้วย
” สำหรับใครที่กำลังมองหาตัวช่วยแนะนำเลยค่ะแบรนด์นี้
First Aid Beauty Ultra Repair Firming Collagen Cream ครีมดีอยากแชร์ต่อ
ครีมคอลลาเจน เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ ช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ มอบความชุ่มชื้น กระชับขึ้น เนียนใส
ให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าเยาว์อีกด้วย ใช้เป็นประจำจะทำให้รอยเหี่ยวย่นดูจางลง
เนื้อสัมผัสที่เบาสบาย ไม่ทำให้หนักหน้า “
ปริมาณ 50 ml
ราคาประมาณ 1,950 บาท
ปัญหา หน้าบาน เกิดจากอะไรได้บ้าง?
ปัญหาหน้าบาน? เป็นคำถามที่หลายๆคนสงสัยอยู่ใช่ไหมค่ะ ว่าสาเหตุมาจากอะไร วันนี้เรามีคำตอบ โดยสาเหตุหลักๆ ของหน้าบานนั้นมีอยู่ 2 ปัจจัยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
- ทางพันธุกรรม ปัญหาหน้าบานที่เกิดจากพันธุกรรม เช่นบางคนมีโครงสร้างกระดูกขากรรไกรใหญ่ ที่มีมาตั้งแต่เกิด หรือมีกระดูกกรามใหญ่ ซึ่งเป็นสาเหตุที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า,ตายาย,พ่อแม่ ก็ทำให้คุณมีโอกาสมากกว่าคนทั่วไป
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต ก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นพฤติกรรมการทานหากคุณเป็นคนชอบทานของจำพวกแป้ง ของทอดไขมันสูงน้ำตาล ก็อาจส่งผลให้เกิดการผลิตไขมันไว้ที่ใบหน้าได้ ทำให้หน้ากลม หน้าบานหรือ การทานอาหารที่ใช้แรงเคี้ยวที่มากเกินไป เช่นเคี้ยวหมากฝรั่ง อาหารที่ทำให้กล้ามเนื้อมีความใหญ่พิเศษ ก็ส่งผลให้เกิดปัญหาเรื่องหน้าบานได้เช่นกันค่ะ
5 วิธีลด หน้าบาน มีอะไรบ้าง?
หลังจากที่คุณทราบสาเหตุปัญหาหน้าบานแล้ว วันนี้มาหาวิธีลดหน้าบางกันดีกว่าค่ะ ว่าวิธีไหนที่จะตอบโจทย์คุณได้มากที่สุด โดยเราขอแนะนำวิธีดังนี้
1.ฉีดโบท็อก
การฉีดโบท็อกแก้หน้าบานคือการฉีดสาร Botulinum toxin เป็นสารที่มาจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งอัดฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง โดยตัวยาจะเข้าไปรบกวนระบบประสาทและสั่งงานของกล้ามเนื้อทำให้หยุดทำงานแล้วก็ค่อยๆ หดตัวลงโดยการฉีดโบท็อกนั้น จะทำให้ใบหน้าจะดูเล็กลงประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังฉีดจะเห็นผลแบบชัดเจนที่สุดช่วงประมาณ 1-2 เดือน โดยการฉีดจะเห็นผลลัพธ์ ยาวนานอยู่ที่ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับโบท็อกที่คุณเลือกใช้ เพราะแต่ละยี่ห้อนั้นไม่เหมือนกัน
2.ฟิลเลอร์
การแก้ปัญหาหน้าบาน ด้วยการฉีดฟิลเลอร์! ฟิลเลอร์ คือสารเติมเต็มอีกอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ สารเติมเต็มกรดไฮยาลู สารสกัดมาจากธรรมชาติสามารถเข้ากับร่างกายได้โดยไม่เป็นอันตราย โดยการฉีดฟิลเลอร์นั้นจะมีส่วนช่วยปรับคางให้ยาวขึ้นให้ใบหน้าดูเรียวยาวและ หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ จะเห็นผลยาวนานได้ถึง 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้ ถือว่าเป็นวิธีที่หลายๆ คนเลือกใช้ในยุคปัจจุบันและมีความปลอดภัยหากคุณเลือกยี่ห้อที่ได้มาตรฐานมีอย.
3.การฉีดเมโสแฟต
เป็นอีกหนึ่งตัวยาที่สามารถสลายไขมันบนใบหน้าได้และเมื่อฉีดเข้าไปแล้วไขมันจะเกิดการแตกตัวออกจากทางร่างกายเช่นทางปัสสาวะ เพื่อให้ใบหน้าดูเล็กลงและดูเรียวยาวเข้ารูปตามที่ต้องการโดยวิธีนี้จะเห็นผลได้ประมาณ 1-3 สัปดาห์หลังการฉีดจะเห็นผลลัพธ์อยู่ที่ประมาณ 10-15% และเห็นผลได้นานอยู่ประมาณ 3 เดือนแนะนำควรฉีดต่อเนื่องกัน 3-5 ครั้งหรือแล้วแต่ความต้องการของผู้เข้ารับบริการ
4.Ultraformer 111 ยกกระชับ
ปรับหน้าด้วยเครื่องยกกระชับ คลื่นที่มีความถี่สูง และพลังงานเข้มข้นอย่าง Micro & Macro Focused Ultrasound หรือ MMFU โดยหัวยิงในรูปแบบนี้จะมีอยู่ 3 ระดับ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เข้ากับผู้เข้ารับบริการมากที่สุด เป็นวิธีที่ส่งพลังงานได้ลึกสุดถึงขั้นผิว SMAS ทำให้ใบหน้าค่อย ๆ กระชับและเรียวขึ้นภายใน 1-2 เดือนหลังทำ และสามารถเห็นผลครั้งแรกได้เลยทันทีที่ทำ และการทำ 1 ครั้ง จะอยู่ได้นานถึง 18 เดือน นอกจากนี้ยังสามารถฉีดที่ลำตัวได้อีกด้วยถือว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยม แต่อาจจะมีข้อเสียเพราะอาจจะเกิดเอฟเฟคได้หลังการฉีดเช่นหน้าบวม หรือทิ้งรอยแดง
5.ศัลยกรรมผ่าตัด
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่หลายๆ คนนิยมเพราะว่าเจ็บครั้งเดียวแต่จบ ซึ่งการศัลยกรรมนั้นจะมีเทคนิคและวิธีการทำที่แตกต่างกันไปบางคนเหมาะกับการเหลากราม บางคนต้องปรับกระดูกให้ยาวขึ้นก็แล้วแต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้การประเมิน ซึ่งในปัจจุบันมีวิธีการผ่าตัดแบบมีแผลในปากทำให้คนไข้ไม่ต้องกังวลเรื่องการเป็นแผลเป็นเลย จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่เราแนะนำ แต่การศัลยกรรมก็มีข้อเสีย เพราะต้องทำการพักฟื้นหลายสัปดาห์ และต้องดูแลตัวเองหลังการทำอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ
บทความที่หน้าสนใจ : ยกกระชับหน้า แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยได้จริงไหม?
บทสรุป ปัญหา หน้าบาน !
วิธีแก้ไขปัญหาหน้าบาน! แบบปลอดภัยเราแชร์ไว้ที่บทความด้านบนหมดแล้วค่ะทั้ง 5 วิธีนี้รับรองเลยว่าเป็นวิธีที่ได้รับความนิย ไม่ว่าจะเป็นการฉีดเมโส,การฉีดฟิลเลอร์,หรือการยกหน้ากระชับก็สามารถเห็นผลระยะนานได้ถึง 12 เดือนเลยทีเดียวแต่เราแนะนำให้คุณเข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนนะคะ พร้อมเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับบริการเอง รับรองเลยว่าปัญหาหน้าบาน ของคุณจะจบลงได้ที่บทความของเรา แล้วพบกันใหม่ใสบทความหน้าพร้อมกับสาระดีๆ อีกมากมายเลยค่ะ
