สิวฮอร์โมน เป็นแล้วควรรักษาแบบไหนดี

สิวฮอร์โมน เป็นแล้วควรรักษาแบบไหนดี

ฮอรโมน 3

คำว่า”สิว” พูดเบาๆก็เจ็บ เป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายๆคนในตอนนี้ สิวฮอร์โมน (hormonal Acne)สิวชนิดนี้ มีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงในระดับฮอร์โมนของร่างกาย มักจะทำให้สิวชอบเกิดในช่วงเวลาเดิมซ้ำๆเช่นหมดประจำเดือน หรือช่วงรอบเดือน รวมถึงภาวะความเครียด และการตั้งครรภ์หรืออื่นๆ ส่วนใหญ่สิวฮอร์โมนจะมีผลกระทบกับกลุ่มวัยรุ่นเป็นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตันหัวปิดหรือจะเป็นสิวอักเสบ สิวหัวหนอง ก็สามารถล้วนเป็นได้ทั้งนั้น หากคุณไม่รู้จักการรักษาให้ถูกวิธีอาจจะเกิดเป็นสิวลุกลาม และรักษาหายยากอีกด้วยค่ะ สมัยปัจจุบันมีการรักษาหลายแบบไม่ว่าจะเป็นวิธีรักษาสิวฮอร์โมนแบบธรรมชาติรักษาสิวฮอร์โมนด้วยการทางยา หรือจะด้วยการทำหัตถกรรมทางการแพทย์  ก็สามารถแก้ปัญหาเรื่องสิวๆได้แบบง่ายดายได้แล้วค่ะ แต่ถ้าเกิดคุณเลือกการรักษาทางหัตถกรรมเราแนะนำให้คุณปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินระดับความรุนแรงของสิก่อน เพราะต้องขึ้นอยู่กับการรักษาที่ถูกวิธีด้วยค่ะ ไม่มีความยุ่งยากอย่างที่คุณคิดอย่างแน่นอน หากคุณอ่านบทความของเราให้จบรับประกันเลยว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่ดีอย่างแน่นอน  อยากมีใบหน้าสวยใสไร้สิว  ติดตามบทความเราด้านล่างได้เลยค่ะ

ฮอร์โมน 1

สาเหตุการเกิด สิวฮอร์โมน มีอะไรบ้าง?

  • สิวฮอร์โมนส่วนใหญ่จะเกิดกับวัยรุ่นหรือการเข้าสู่ช่วงวัยฮอร์โมนพุ่งพล่างเป็นการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนภายในมีความไม่สมดุลกันและยังมีสาเหตุอีกหลายๆอย่างที่ทำให้เป็นสิวฮอร์โมนได้เช่น
  • การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ที่มีการทำงานอย่างรวดเร็วไม่ว่าจะมีประจำเดือนหรืออยู่ในช่วงตั้งครรภ์ ก็จะทำให้เกิดความไม่สมดุลของร่างกายทำให้เกิดสิวฮอร์โมนนั่นเอง
  • พันธุกรรม หากพบว่าคนในครอบครัวเกิดเป็นสิวได้ง่าย หรือเป็นสิวมาก ก็ส่งต่อ สมาชิกในครอบครัวจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดสิวฮอร์โมนได้ง่ายเช่นกัน
  • สภาพแวดล้อม และการใช้ชีวิตเป็นส่วนสำคัญที่ถึงจะเกิดสิวฮอร์โมนได้ง่าย เช่นทำความสะอาดผิวไม่ดีพอมีสิ่งสกปรกตกค้างบนใบหน้าหรือการรับประทานอาหารเช่นไขมันน้ำตาลแป้งอยู่เป็นประจำก็มีความเสี่ยงได้
  • ความเครียดก็เป็นสาเหตุการเกิดสิวฮอร์โมนได้และการนอนหลับไม่เพียงพอซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงในร่างกายในที่สุด

“หากคุณเป็นตุ่ม ที่อวัยวะเพศหรือ ที่น้องสาวเรื่องลับๆของผู้หญิงที่คุณไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ!
ต้องบอกเลยว่าเป็นปัญหาของสาวๆหลายๆคนที่มักจะเขินอายไม่กล้าบอกใคร
หากเป็นสิวที่บริเวณที่ตรงนี้วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้น
เพียงคุณทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆบริเวณจุดซ่อนเร้นและอย่าปล่อยให้อับชื้น
รวมถึงการกินยาปฏิชีวนะร่วมด้วยไม่นานก็จะหายไปและห้ามบีบโดยเด็ดขาด
เพราะจะทำให้เชื้อแบคทีเรียกระจายทำให้ตุ่มลามไปยังบริเวณอื่นๆได้

Editor’s Talk

สิวฮอร์โมน กี่ประเภท?

สิวฮอร์โมนมีลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง? หลายๆคนอาจจะสงสัยอยู่ และเกิดช่วงเวลาไหน? สิวฮอร์โมนจะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทางร่างกายสามารถเกิดได้ทั้งสิวอักเสบและสิวอุดตัน จึงทำให้การแสดงออกของสิวฮอร์โมนของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไปโดยประเภทของสิวมีดังนี้

1.สิวอักเสบ (Inflammatory acne)

 มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง (Papule) ลักษณะเป็นสิวกลมๆขนาดเล็กไม่เกิน 0.5 เซนติเมตร หากสัมผัสจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยภายในไม่มีอาการเกิดหนอง

  • สิวหัวหนอง (Pustule) มีลักษณะเป็นสีแดง ปรากฏตรงกลางเป็นหนองสีขาวเหลือง เมื่อสัมผัสแล้วจะทำให้เกิดความเจ็บปวดเล็กน้อย
  • สิวตุ่มแดงขนาดใหญ่ (module) สิวประเภทนี้จะทำให้เกิดการเจ็บปวดอย่างมากและเป็นสิวขนาดใหญ่ไม่มีหัวสิวลักษณะเป็นก้อนมีหนองอยู่ภายในแต่สามารถบีบออกได้เป็นสิวที่อยู่ในระดับผิวหนังที่ค่อนข้างลึก

2.สิวอุดตัน (comedones)

  • สิวอุดตันหัวปิด (Closed Comdone) หรือสิวหัวขาว มีลักษณะขนาดเล็กมีความนูนออกมาเล็กน้อยสังเกตเห็นจากภายนอกได้ยาก
  • สิวอุดตันหัวเปิด (Open Comedone)  หรือ สิวหัวดำ มีลักษณะเป็นสิวอุดตันขนาดเล็ก ตรงกลางมีการฝังตัวของเคราติน และลิพิด จะทำให้รวมตัวกับออกซิเดชัน ทำให้สิวสีเหลืองขาวกลายเป็นสิวสีดำหรือสีเข้ม
สิวฮอร์โมน 2

บริเวณที่สิวฮอร์โมนชอบขึ้น

  • บริเวณหน้าผาก เพราะหน้าผากจะผลิตน้ำมันออกมามากหากมีสิ่งสกปรกค้างที่ผิว ก็จะทำให้เป็นสิวฮอร์โมนเกิดขึ้นได้รวมถึงคนที่ชอบไว้ผมหน้าม้า
  • บริเวณหลัง เป็นปัญหาที่ทำให้ใส่เสื้อผ้าโชว์หลังไม่ได้ จะทำให้ผิวหนังไม่เรียบเนียน
  • บริเวณคาง ปัจจุบันมีการสวมแมสหรือหน้ากากอนามัยมากจึงทำให้ปัญหาเหล่านี้รบกวนใจได้ง่าย
  • บริเวณแก้ม ทำให้ใบหน้าไม่ชุ่มชื่นส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันหรือการแต่งหน้าได้
  • บริเวณหน้าอก เกิดขึ้นบริเวณนี้จะรู้สึกเจ็บหรือคันหมดความมั่นใจไม่สามารถใส่เสื้อผ้าที่โชว์เนินอกได้

หากเกิดสิวขึ้นมาแล้วก็จะทำให้เกิดมีรอยดำ หรือรอยแดงตามมาได้และยังเกิดริ้วรอยของสิวจึงทำให้เกิดการรักษาหายยากฉะนั้นต้องได้รับวิธีการรักษาอย่างถูกวิธีด้วยค่ะ

วิธีป้องกันสิวฮอร์โมนมีอะไรบ้าง

สำหรับคนที่กำลังมีปัญหาสิวฮอร์โมน (Hormonal Acne) สามารถหลีกเลี่ยงได้และลดความเสี่ยงในระดับรุนแรงได้เช่น

  • ควรพักผ่อนได้เพียงพอ
  • งดการบีบหรือสัมผัสหรือการแคะพฤติกรรมที่ทำให้คุณเกิดสิวลุกลามได้
  • ดื่มน้ำมากๆ จะทำให้ผิวทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • รับประทานอาหาร ที่มีประโยชน์ งดของมันเน้นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนที่ได้มาตรฐาน
  • ทำความสะอาดใบหน้าและส่วนอื่นๆของร่างกายได้โดยเฉพาะผู้แต่งหน้าบ่อยๆ และควรทำความสะอาดอยู่ทุกครั้ง
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยลดอาการเกิดสิวและความรุนแรงของสิวจากฮอร์โมนได้

สิวฮอร์โมนผู้หญิงกับผู้ชายแตกต่างกันหรือไม่?

  • สิวฮอร์โมนผู้หญิงมีความเปลี่ยนแปลงในระดับฮอร์โมนของภายในร่างกายซึ่งเกิดจากสิวอุดตันและสิวอักเสบ สาเหตุมาจากความเครียด รอบประจำเดือน ภาวะถุงรังไข่หรืออื่นๆจึงทำให้เกิดสิวฮอร์โมน
  • สิวฮอร์โมนผู้ชายมีลักษณะสิวที่แตกต่างกันออกไปมักจะเกิดขึ้นในระดับเดิมๆซ้ำๆ เช่นการเปลี่ยนแปลงระดับของฮอร์โมน พบมากในกลุ่มวัยรุ่นเพื่อ สร้างฮอร์โมนเพศชายที่ชื่อว่าแอนโดรเจน (Androdens) และจะไปช่วยกระตุ้นไขมันให้ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นจนทำให้เกิดสิวฮอร์โมนขึ้นมาได้นั่นเอง

วิธีรักษา สิวฮอร์โมนมีอะไรบ้าง

การรักษาสิวฮอร์โมนมีการรักษาที่หลายวิธีและขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแต่ละบุคคลโดยจะแบ่งการรักษาดังนี้

  • รักษาสิวฮอร์โมนแบบธรรมชาติ สามารถทำเองได้ตามความรุนแรงเช่น งดการสัมผัสบริเวณใบหน้าเช่นการพอกหน้า การขัดหน้าหรือการแกะ การเการวม
  • งดการทาผลิตภัณฑ์โฆษณาที่ไม่ได้มาตรฐานเพราะจะยิ่งทำให้ผิวหนังอักเสบมากขึ้นพยายามดูแลตัวเองโดยการทำความสะอาดอย่างเหมาะสมไม่พอกหน้าจนเกินความจำเป็นและพยายามหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน
  • เลือกรับประทานน้ำมันปลาเนื่องจากของไขมันโอเมก้า 3 จะช่วยลดอาการอักเสบและมีความชุ่มชื่นให้แก่ผิวของคุณได้
  • รักษาด้วยการทานยาและการทานยาเพื่อคุมสิวแต่ต้องไม่ใช่ยาคุม จะทำให้สิวลดได้ประมาณ 50-100% และสามารถลดความมันได้ ลดอาการปะทุของสิวอักเสบได้อีกด้วยใช้เวลาประมาณ 3 เดือนถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี เลือกทายาสิว จะช่วยลดอาการอักเสบของสิวได้และต้องใช้ทดสอบกับผิวก่อนใช้งาน เพื่อป้องกันการอักเสบหรือการระคายเคือง
  • รักษาสิวด้วยหัตถกรรมทางการแพทย์ การรับสิวด้วยหัตถกรรมทางการแพทย์ต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเพื่อประเมินสิวบนใบหน้าของคุณว่าควรใช้การรักษาแบบไหน โดยมีการรักษาหลายแบบเช่น
  • รักษาสิวด้วยเครื่องเลเซอร์หรือการบำบัดด้วยแสงจะช่วยในเรื่องของการแพร่เชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบได้ รวมถึงการเกิดรอยดำ รอยแดงหลุมสิว หากคุณเลือกการรักษาแบบผิดๆ สิวก็กลายเป็นสิวอักเสบชนิดเป็นก้อนที่อยู่ใต้ผิวหนังได้แต่ควรใช้ยาอื่นๆควบคู่ไปด้วย
  • รักษาสิวด้วยกาาฉีดมาเด้คอลลาเจน-เมโสหน้าใสเป็นหัตถกรรมที่ช่วยฟื้นฟูผิวที่ถูกออกแบบเพื่อช่วยขับสารพิษออกโดยเฉพาะเป็นวิธีที่กำลังได้รับความนิยมเพราะยังช่วยลดผดผื่น ลดอาการอักเสบได้อีกด้วยเหมาะกับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้มีสุขภาพดีในฉบับเร่งด่วน

บทความที่น่าสนใจ : ฉีดไขมัน ที่หน้าอันตรายไหม?

บทสรุป สิวฮอร์โมน รักษาด้วยวิธีไหนดีที่สุด

สิวฮอร์โมนเป็นแล้วรักษาได้ และสามารถหลีกเลี่ยงได้และยังหาวิธีป้องกันได้อีกด้วย เลือกรักษาเบื้องต้นได้ก่อนเลยค่ะ พยายามหลีกเลี่ยงความเครียดรวมถึงการรับประทานอาหาร การดูแลความสะอาดเพียงแค่นี้คุณก็สามารถป้องกันสิวฮอร์โมนเบื้องต้นได้แล้วค่ะ แล้วถ้าเกิดขึ้นควรทำยังไง?เราก็มีวิธีการรักษาตามบทความข้างบนแนะนำเลยค่ะ แต่วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในนตอนนี้ คือการทำหัตถกรรมเพราะว่าได้ผลเร็วอย่างการฉีด มาเด้คอลลาเจน-เมโสหน้าใส เพราะยังช่วยบำรุงผิวหน้าให้มีสุขภาพดีแข็งแรงอีกด้วย รับรองเลยว่าบทความของเราจะช่วยคุณกำจัดปัญหาสิวๆ ได้อย่างดีที่สุดแน่นอนค่ะพร้อมได้รับคำแนะนำที่ดีอีกด้วยค่ะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าพร้อมสาระดีๆ นะคะ

บทความแนะนำ

ขาแตกลาย 1

ขาแตกลาย สาเหตุมาจากอะไร? รักษาด้วยวิธีไหนได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ขาแตกลาย? สาวๆ ท่านไหนที่กำลังคิดไม่ตกกับปัญหารอยแตกลายอยู่ จะใส่ชุดสวยชุดไหนก็ไม่มั่นใจ ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเลยค่ะ

โบท็อกซ์ 3

โบท็อกซ์ Botox คืออะไร? ฉีดแล้วเป็นอันตรายไหม เรามีคำตอบ

สำหรับสาวๆ ที่ต้องการมีใบหน้าเรียวและมีโครงสร้างที่สวยงาม บทความนี้เป็นโอกาสที่ดี ที่คุณจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ โบท็อกซ์