สำหรับคนที่กำลังเจอปัญหา “ริมฝี ปากแห้ง” และหาสาเหตุไม่เจอว่าเกิดจากอะไร วันนี้บทความของเรารวบรวมข้อมูลทุกอย่างมาให้หมดแล้วค่ะ รับรองเลยว่าผู้อ่านจะได้คำตอบที่ดีอย่างแน่นอน เพราะบริเวณริมฝีปากมีความบอบบางจึงต้องหมั่นดูแลเป็นพิเศษ แม้คุณจะบำรุงอยู่ตลอด แต่ก็ยังแก้ปัญหาปากแห้งไม่ได้ ก็จะทำให้เกิดความน่ารำคาญและสร้างความเจ็บปวดได้ค่ะ ส่งผลต่อบุคลิกทำให้ไม่มั่นใจ แต่ก่อนที่จะรักษาเราแนะนำว่าควรหาสาเหตุกันก่อนดีกว่าค่ะ ว่าต้นเหตุมาจากไหนมีอะไรบ้าง? และอาการเป็นอย่างไร พร้อมวิธีรักษาให้ตรงจุด วิธีป้องกัน รับรองเลยว่าคุณอ่านบทความเราจบคุณจะได้ประโยชน์ดีๆ มากมายเลยค่ะ นอกจากนี้การรักษายังมีหลายอย่างที่ง่ายต่อการใช้ชีวิต เช่นการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้ปาก เป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ค่ะ
อาการ ปากแห้ง เป็นอย่างไร?
มาสังเกตริมฝีปากตัวเองกันดีกว่าค่ะ ถ้าหากคุณมีอาการปากลอกเป็นขุย แห้ง แตก หรือเป็นแผล และมีความรู้สึกเจ็บบริเวณมุมปาก รู้สึกว่าไม่สบายและรู้สึกแสบลิ้น รับรสอาหารได้น้อยลง มีปัญหาต่อการกลืน รู้สึกคอแห้ง คอเหนียว และมีความรู้สึกหิวน้ำบ่อยๆ หากคุณมีอาการเหล่านี้ เป็นสัญญาณของอาการปากแห้ง ควรรีบหาสาเหตุ และวิธีป้องกัน เพราะถ้าคุณปล่อยไว้นานเกินไป จะทำให้มีอาการรุนแรง และอาจจะเกิดเป็นแผลอักเสบได้ หรือแผลพุพอง และยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้อีกด้วยค่ะ จนเกิดเป็นริมฝีปากอักเสบได้ในที่สุด และอาการปากแห้งยังมีสาเหตุอีกหลายยกตัวอย่างเช่น
- เกิดจากโรคบางชนิด เช่น เบาหวาน โรคนี้จะส่งผลโดยตรงและทางอ้อม ทำให้การทำงานและโครงสร้าง ของต่อมน้ำลาย ไม่สามารถสร้างน้ำลายได้เพียงพอ รวมถึงโรคพาร์กินสัน ,โรคทางระบบประสาท,โรค HIV/AIDS, โรคตาแห้ง (Sjogren’s syndrome) เป็นต้น
- จากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดัน ยารักษาโรคซึมเศร้ายาลดความดันโลหิต ยารักษาสิว เป็นต้น
- ต่อมน้ำลาย ผลิตน้ำลายออกมาไม่เพียงพอ
- ขาดน้ำ เพราะการดื่มน้ำ ในปริมาณที่น้อยจนเกินไป จะทำให้ริมฝีปากสูญเสียน้ำได้ รวมถึงอาการเจ็บป่วย ท้องเสีย อาเจียนเป็นต้น
- อายุที่มากขึ้นก็เป็นสาเหตุที่เกิดขึ้นได้
- การแพ้ยาสีฟัน ก็เป็นส่วนเพราะอาจจะแพ้สารบางอย่าง ในยาสีฟัน เช่นสาร ก่อฟองประเภท SLS , การแพ้สารลดแรงตึงผิว Cocamidopropyl Betaine เป็นต้น แม้ยาสีฟันสมุนไพรก็เป็นสาหตุริมฝีปากแห้งได้เช่นกัน
- เกิดจากพฤติกรรมบางอย่าง เช่นชอบเลียริมฝีปากบ่อยๆ จะทำให้ริมฝีปากแห้ง เพราะน้ำลายมีเอนไซม์ที่ช่วยในการย่อยอาหาร หรือพฤติกรรมหายใจทางปากหรือนอนกรน
วิธีแก้อาการปากแห้งให้กลับมาชุ่มชื้น
- เลือกลูกอมหรือหมากฝรั่งที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล เพราะจะเป็นตัวกระตุ้น ต่อมน้ำลายออกมาได้มากขึ้น ไม่ทำให้ปากแห้ง
- ควรดื่มน้ำเยอะๆ เป็นอีกวิธีที่เพิ่มความชุ่มชื่นได้ และควรเลือกดื่มน้ำที่ไม่มีน้ำตาล การดื่มยังช่วยให้ยกระดับความชุ่มชื่นของผิวได้อีกด้วยค่ะ
- เลือกอาหารที่มีส่วนผสมของวิตามมินบี จำพวกธัญพืชไม่ขัดขาว เช่น ข้าวกล้อง และผักใบเขียว ต่างๆ เช่น ผักโขม คะน้า บรอกโคลี และถั่วต่างๆ
- ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพราะมีส่วนทำให้ปากชุ่มชื้นได้ แต่ถ้ามีอาการแพ้ จะยิ่งทำให้ปากแห้งมากขึ้นควรหมั่นสังเกตให้ดี
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด และเค็มจัด เพราะจะยิ่งทำให้ปากยิ่งแห้งได้
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ มีส่วนทำให้ปากแห้งได้
- เปลี่ยนยาหรือใช้วิธีการปรับเปลี่ยน เพราะยาบางชนิดมีผลส่งกระทบทำให้ริมฝีปากแห้งได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ ไม่ควรปรับเปลี่ยนยาด้วยตัวเอง
- เลือกใช้น้ำลายเทียม ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นในปากได้ แต่ต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์เท่านั้น
- พยายามอย่าเลียปาก เพราะน้ำลายจะดูดเอาความชื้นออกจากปากไป ทำให้ปากแห้งได้
- เลือกใช้ลิปมัน เพาะเป็นตัวช่วยทำให้ปากชุ่มชื่นได้
- เปลี่ยนพฤติกรรมการใจ ทางปาก เพราะจะมีปัญหาด้านสุขภาพตามมา เช่นมีน้ำหนักตัวที่มากขึ้น และเหนื่อยหอบง่าย
- พบทันตแพทย์เป็นประจำ ทุกๆ 6 เดือน หรือปีละ 2 ครั้ง
ฉีดฟิลเลอร์แก้ปัญหาปากแห้ง ปากลอก ได้จริงหรือไม่?
การฉีดฟิลเลอร์ สามารถช่วยแก้ปัญหาปากแห้งได้ค่ะ เพราะฟิลเลอร์มีส่วนผสมของสารไฮยาลูโรนิคที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวมวลโมเลกุล และยิ่งทำให้ปากอุ้มน้ำอยู่ตลอด ลดร่องปาก เพิ่มความชุ่มชื่นได้อีกด้วย แต่จุดประสงค์สำคัญที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้วิธีนี้เพราะ แก้ปัญหา ริมฝีปากไม่เท่ากันได้ และฉีดเพื่อยกมุมปากสำหรับคนที่มุมปากตก แต่ควรเลือกทำในสภาพแวดล้อมที่ปลอดเชื้อเท่านั้น และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย เพราะการฉีดปากมีความเสี่ยงอาจจะทำให้ ติดเชื้อ ,และเสียโฉมได้
บทความน่าสนใจ : 6 น้ำยาบ้วนปาก ลมหายใจหอมสดชื่น ไร้กลิ่นปาก
บทสรุป ปากแห้ง รักษาด้วยวิธีไหนดีที่สุด
สำหรับอาการปากแห้ง เราแชร์ไอเดียการรักษาและการป้องกันไปแล้วจากบทความด้านบน คุณเลือกรักษาได้ตามความเหมาะสมเลยค่ะไม่ว่าจะเป็นการรักษาทางธรรมชาติ หาเลือกการฉีดฟิลเลอร์ ควรเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะมีความเสี่ยงพอสมควรเพราะถ้าเจอแพทย์และคลินิกไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลต่อการต่อการติดเชื้อได้ค่ะ เพราะริมฝีปากเป็นส่วนสำคัญของใบหน้าต้องระวังเป็นพิเศษ เราหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านมากๆ นะคะแล้ว มาพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ พร้อมสาระดีๆ มากมาย